นิยามของ รถหรู แค่ดูก็มีความสุขแล้ว

รถหรู แค่ดูก็มีความสุขแล้ว 

หากจะให้พูดถึงรถหรูก็คงจะจินตนาการไปถึงรถยนต์ที่มีความสวยงาม ราคาค่อนข้างสูง เหมาะสมกับฐานะและสไตล์คนมีเงิน หรือไม่ก็เป็น รถสปอร์ต วิ่งเร็วๆ เหล่านั้น แต่ยังไม่หมดเพราะว่าการที่จะเป็นรถหรูได้จะต้องมีอะไรที่พิเศษกว่าธรรมดา ไม่ได้จะมองแค่ว่ารถที่มีแรงม้าสูง วิ่งเร็ว ก็จะเป็นรถหรูได้ แต่เราต้องมาดูองค์ประกอบอีกหลายๆ อย่างเพื่อที่จะชี้ชัดได้ว่ารถที่สงสัยนั้นเป็น “รถหรู” หรือเปล่า

1.       รถหรูนั้นสามารถสังเกตได้ไม่ยาก ถ้าใครชอบเรื่องรถพวกนี้อยู่แล้วเพียงแค่มองก็จะรู้ว่านี่คือรถที่อยู่เซกเมนต์ไหน อย่างเช่น สังเกตที่การออกแบบ จะแลดูสวยกว่ารถธรรมดา วัสดุ ไฟหน้า ไฟท้าย ล้อ และแม้แต่ยางที่ใช้ก็จะเหมือนเป็นอีกหนึ่งระดับ คือเป็นรถหรู หากนึกภาพไม่ออกให้คุณนึกถึงรถยนต์ยี่ห้อดังตลอดการณ์ในบ้านเรา เช่น Mercedes-Benz ML250  รุ่นใดก็ได้แล้วเปรียบเทียบกับรถยนต์ทั่วไปที่เห็นตามท้องตลาดดู

2.       สังเกตที่ยี่ห้อ วิธีนี้น่าจะง่ายที่สุด แต่ก็ใช่ว่ารถยนต์ยี่ห้อที่เราเห็นทั่วไปตามท้องถนนจะไม่มีรุ่นที่เป็นรถหรูนะ เพราะบางผู้ผลิตก็มีรถบางรุ่นที่ผลิตเป็นรถหรูราคา 7 หลักขึ้นไป แล้วก็มีรถธรรมดาราคา 6 หลักกลางๆ เพื่อเอาใจลูกค้าหลายระดับ ยี่ห้อรถหรูที่เรารู้จักกันดีได้แก่ Audi, Aston Martin, Porsche, Range Rover, Mercedes-Benz, Bentley, Volvo, Ferrari, และสุดท้าย Volk beetle  นั่นเอง

3.       ราคา เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้เรารู้ว่ารถเหล่านั้นเป็นรถที่ดีสมกับคำว่าหรูแน่ๆ เพราะราคาจะอยู่ 7 หลัก ถึง 9 หลักเลยทีเดียว

4.       สุดท้ายได้แก่เรื่องของเครื่องยนต์ แน่นอนว่าสมรรถนะต้องดีกว่ารถธรรมดาทั่วไป อะไหล่ต้องแพง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในครบครัน ทันสมัย โครงสร้างแข็งแรง การทรงตัวดีเยี่ยม รวมไปถึงระบบป้องกันต่างๆ ที่ดีเลิศสมกับราคาที่เป็นรถหรูด้วย

ซุปเปอร์ คาร์ ระดับแนวหน้าของโลก

หลังจากทีได้แสดงรถหรู มาหลายแบบ หลายคัน มาถึงคราวนี้รถหรู ซุปเปอร์คาร์ที่อยู่ระดับท๊อปเท็นของโลก ทั้งในเรื่องของการทำความเร็วสุงสุดและแน่นอน ราคาแพงระดับมหาเศรษฐีเท่านั้น ที่จะสามารถครอบครัวได้ ซึ่ง Koenigsegg นั้น ก่อตั้งเมื่อปี 1994 โดยมีนโยบายหลัก คือ การผลิตรถหรู ซุปเปอร์คาร์ที่มีความเร็วสูงสุดในโลกเท่านั้น แต่ทว่าการจะเป็นที่หนึ่งได้ ต้องมีอุปสรรคมาโดยตลอด ทั้งจากวิวัฒนาการของคู่แข่งที่ก้าวหน้าขึ้นมาสู่สังเวียนนี้เพิ่มสูงขึ้น การรักษาแชมป์จึงจำเป็นต้องก้าวให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา และในปี 2006 สายการผลิตรุ่น CCX จึงมีภาระกิจหลักในการทวงตำแหน่งที่หนึ่ง ให้ top speed และได้พัฒนาร่วมกับบริษัท Grainger &  Warrall workshop ผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์สำหรับรถสูตรหนึ่งเท่านั้น Formula 1  มาส่วนจัดหาวัสดุและส่วนประกอบอื่นๆ

เครื่องยนต์แบบ V8 ขนาดความจุ 4700 ซีซี 32 วาวล์ ประกบกับ ระบชาร์ทคู่ สร้างแรงอัดมหาศาล ฉีดน้ำมันเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ด้วยหัวฉีดแบบซีเควนส์เชียลอย่างแม่นยำสูงสุด ให้พละกำลังถึง 817 แรงม้า ทำความเร็วจากจุดหยุดนิ่ง 0-300 กม/ชม ไม่ถึงครึ่งนาที สร้างความเร็วได้สูงสุด 388 กม/ชม
นอกเหนือจากสมรรถนะที่เปรียบได้ถึงระดับแนวหน้าของวงการ ไฮเปอร์คาร์บันลือโลกแล้ว ดีไซน์ที่เป็นรูปแบบเฉพาะตัว เรียกแรงดึงดูดจากสายตาแฟนแฟน ความเร็วให้จ้องมองอย่าง ทุกความเคลื่อนไหว ฟินสุดสุด  อย่างนี้ สิ รถหรู รถสปอร์ต ตัวจริง