แวนกอนท้ายลาด CLS Gen 2
เมอร์เซเดส-เบนซ์
ไม่ค่อยมีความเคลื่อนไหวแรง ๆ ในตลาดรถแวกอน ตั้งแต่เปิดตัว CLS 250 ในปี 2004 ส่วนออดี้มีเวอร์ชัน Sportback อยู่ในรถเกือบทุกรุ่น
บีเอ็มดับเบิลยูก็ภูมิใจกับยอดขายเอสยูวีทรงลาดคล้ายรถสปอร์ตนำเข้า
ซึ่งขายดีทั่วโลก
เมอร์เซเดส-เบนซ์กลับมาลุยตลาดด้วย CLS Shooting
Brake พร้อมประกาศว่าเป็นรถสปอร์ต 5
ที่นั่งมาพร้อมประตูท้ายลาดเวอร์ชันแรกในประวัติศาสตร์ถ่ายทอดรูปลักษณ์อันโฉบเฉี่ยวจากรถต้นแบบ
Shooting Brake Concept 2010 มาพร้อมกรอบไฟหน้า แอลอีดี
เส้นสายหลังคาที่โค้งลาดเอียง และสปอยเลอร์ขนาดเล็กบนฝาประตูท้าย
เมอร์เซเดส-เบนซ์ เปิดตัว CLS Shooting
Brake ตัวถังแวกอนของ CLS เจนเนอเรชัน 2 พร้อมรูปลักษณ์แตกต่างจาก Shooting
Brake Concept ที่เผยโฉมใน 2010 ปักกิ่ง มอเตอร์โชว์ เพียงเล็กน้อย
ขนาดตัวถังขยายขึ้นบ้าง กว้าง 1,881 มม. ยาว 4,956 สูง 1,413 มม.
พื้นที่บรรทุกสัมภาระจุ 590-1,550 ลิตร ขึ้นอยู่กับรูปแบบการปรับเบาะ
รูปลักษณ์ Shooting ดูเหมือนกับ CLS ตั้งแต่กระจังหน้าไปจนถึงเสาบี
ทั้งภายในและภายนอกต่อจากนั้นเส้นสายหน้าต่างทรงเพรียวบางและดูยาวนำไปสู่ประตูหลังที่ดีไซน์โฉบเฉี่ยว
และบั้นท้ายออกแบบให้ลาดเพรียวลมมากกว่ารถแวกอนทั่วไป ซึ่งอ้างอิงรถรูปแบบ Shooting
Brake ในอดีต
มีเครื่องยนต์ให้เลือก 4 บล็อก คือ
CLS 250 CDI
BlueEFFICIENCY ดีเซล 4 สูบ 2.1 ลิตร 204 แรงม้า แรงบิด 60 กก.-ม.
0-100 กม./ชม. ใน 7.8 วินาที ความเร็วสูงสุด 235 กม./ชม.
CLS 350 CDI BlueEFFICIENCY ดีเซล วี 6
สูบ 3.0 ลิตร 260 แรงม้า แรงบิด 63.2 กก.-ม. 0-100 กม./ชม. ใน 6.6
วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
CLS 350 BlueEFFICIENCY ดีเซล วี 6 สูบ 3.5 ลิตร 306 แรงม้า แรงบิด 37.8
กก.-ม. 0-100 กม./ชม. ใน 6.7 วินาที ความเร็วสูงสุด 250
กม./ชม.
CLS 500
BlueEFFICIENCY ดีเซล วี 8 สูบ 4.8 ลิตร
480 แรงม้า แรงบิด 61.2 กก.-ม. 0-111 กม./ชม. ใน 5.3 วินาที ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม.
สำหรับตัวแรงเวอร์ชัน AMG เตรียมทำตลาดภายหลังด้วยชื่อ
CLS 63 AMG Shooting Brake ยกระบบมาจาก CLS 63 AMG Coupe เครื่องยนต์
วี 8 สูบ 5.5 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ 518 แรงม้า ถ้าเสริมชุด AMG Performance package
จะเพิ่มเป็น 550 แรงม้า อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ใน 3.8 วินาที
ความเร็วสูงสุดถูกจำกัดไว้ 300 กม./ชม.
ภายในห้องโดยสารนอกจากตกแต่งด้วยหนังแท้และลายไม้แล้ว
พื้นด้านหลังเบาะแถว 2 ทำจากไม้เชอรี่ มาพร้อมกับรางอะลูมิเนียมผสมยาง รถคันนี้จึงไม่ใช่เพียงเพื่อขับจ่ายตลาด
หรือพาสุนัขไปกินลมแต่เป็นรถเอสเตทที่เหมาะแก่การขับให้คนสนใจมองมากกว่าเพื่อขนของ
เตรียมออกจำหน่ายเดือนพฤศจิกายน 2012
ด้วยราคา 48,000 ปอนด์ หรือประมาณ 2.1 ล้านบาท ในอังกฤษ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น