เจาะลึก Toyota Alphard และ Toyota Vellfire เหมือนหรือ ต่างกันอย่างไร

แฟนพันธ์แท้เรื่องรถทั้งหลายคงเคยสงสัยเรื่องนี้ว่าทำม้ายทำไม ทำไม โตโยต้าทำรถตู้แบบหรูออกมาคล้ายๆกันถึงสองรุ่น และราคาก็ใกล้เคียงกันมาก ๆ ราคา เริ่มต้น 3 ล้านกว่า นั่นก็คือ Toyota  alphardและ Toyota Vellfire นั่นเอง วันนี้เรมาไขข้อข้องใจข้อนั้นกันดีกว่าว่าทำไมโตโยต้าต้องทำแบบนั้น 

                Toyota Vellfire เป็นรุ่นที่กำเนิดขึ้นมาใหม่ โดยมี Alphard เป็นโมเดลต้นแบบ ถ้าถามว่า ToyotaVellfire ต่างจาก Toyota Alphard อย่างไร  ก็ต่างกันแค่ ไฟหน้า/ไฟท้ายและโลโก้  ชอบไฟแบบไหน ก็ซื้อตัวนั้นเลย(ทั้งสองเป็นรถแบบ MPV (Multi Purpose Vehicle) หรือรถยนต์นั่งเอนกประสงค์เหมือนกันจ้า)

 ความแตกต่างระหว่าง Toyota Alphard  และ Toyota Vellfire

ภายนอก –

Toyota  Alpahrd - ไฟหน้าโคลมใหญ่ 1 ดวงเต็มๆ   ไฟท้ายใหญ่ สี แดงสด ถ้าเป็นรุ่น Hybrid จะโคลมใส  มีโลโก้ ALPHARD

Toyota  Vellfire - ไฟหน้าแบบ 2 ชั้น ดูสปอร์ต  ไฟท้าย แบบ 2 ชั้น ถ้าเป็น Hybrid จะโคลมใส  มีโลโก้ VELLFIRE

ภายใน -

เหมือนกันเดะๆๆเลย แยกไม่ออกเลยว่าคันไหนรุ่นไหน

เกรดและออฟชันก์ของ  Toyota Alphard และ Toyota Vellfire

 Alphard - ลำดับเรียงจากเกรดต่ำ ไปเกรดสูง รวมทั้งออฟชันก์และราคาด้วย

เครื่อง 2.4ลิตร จะมีเกรด      240X - 240G - 240S

เครื่อง 3.5ลิตร จะมีเกรด      350G - 350S

เครื่อง Hybrid จะมีเกรด      X - G - SR

     - X เป็นเกรดที่มาตรฐานที่สุด และราคาต่ำสุด คือ ไม่ได้ใส่ออฟชันก์อะไรมาให้เลย แถมยังเลือกซื้อออฟชันก์เสริมได้ไม่กี่อย่าง

     - G เกรด คือ เกรดระดับกลาง มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายใส่มาให้พร้อม อันนี้ไม่รวมออฟชันก์เสริมเช่น sunroof หรือ เครื่องเสียง, ฯลฯ บอดี้เป็นแบบมาตรฐาน ล้อ 17 นิ้ว ไม่มีชุดแต่งสปอร์ต

     - S เกรด คือ เกรดที่ใส่สิ่งอำนวยความสะดวกสบายมาพอๆกับ G เกรด แต่บอดี้เหนือกว่า ให้ล้อขนาด 18 นิ้ว และชุดแต่งทรงสปอร์ตรอบคันและภายในโทนดำสปอร์ต แถมยังมีออฟชันก์ที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้สำหรับ S เกรด

Toyota Vellfire -  ลำดับเลียงจากเกรดต่ำ ไปเกรดสูง รวมทั้งออฟชันก์และราคา

เครื่อง 2.4ลิตร จะมีเกรด      2.4X - 2.4V - 2.4Z

เครื่อง 3.5ลิตร จะมีเกรด      3.5V - 3.5Z

เครื่อง Hybrid จะมีเกรด      X - V - ZR

     - X เป็นเกรดที่มาตรฐานที่สุด และราคาต่ำสุด คือ ไม่ได้ใส่ออฟชันก์อะไรมาให้เลยแถมยังเลือกซื้อออฟชันก์เสริมได้ไม่กี่อย่าง

     - V เกรด คือ เกรดระดับกลาง มีความสะดวกสบายใส่มาให้พร้อม (ไม่รวมออฟชันก์เสริมเช่น sunroof หรือ เครื่องเสียง, ฯลฯ) บอดี้เป็นแบบมาตรฐาน ล้อ 17 นิ้ว ไม่มีชุดแต่งสปอร์ต

      - Z เกรด คือ เกรดที่ใส่ความสะดวกสบายมาพอๆกับ V เกรด แต่เหนือกว่าในเรื่องของ บอดี้ ให้ล้อขนาด 18 นิ้ว และชุดแต่งทรงสปอร์ตรอบคันและภายในโทนดำสปอร์ต แถมยังมีออฟชันก์เพิ่มที่สามารถเลือกซื้อเพิ่มได้สำหรับ S เกรด

เกรดที่แยกออกมาเป็นเพียงเกรดหลักๆเท่านั้น ในแต่ละตัวจะยังแยกย่อยไปตามออฟชันก์ที่ใส่เข้าไปในรถอีก เช่น ลายไม้ที่ลายต่างกัน หรือ วัสดุหุ้มเบาะภายใน และอื่นๆที่ต่างกัน

ในเรื่องของราคานั้น  Toyota Alphard และ Toyota Vellfire ราคาไม่ต่างกันหากเป็นราคาขายที่ญี่ปุ่น แต่ราคาขายบ้านเรา นั้นขึ้นอยู่กับว่าจะซื้อจากผู้นำเข้าเจ้าไหน

ข้อแตกต่างของตัวรถ

Toyota Alphard  X / Toyota Vellfire X – ไม่มีใครนำเข้ามาขายเลย เพราะมีไม่คนซื้อ

Toyota Alphard  G / Toyota Vellfire V - ภายนอกล้อ 17 นิ้ว ไม่มีชุดแต่ง  ภายในจะได้ภายในครีมมา ถ้าอยากได้เบาะมิกกี้เมาท์คุณต้องซื้อในตัว 3.5 เท่านั้น

Toyota Alphard  S / Toyota Vellfire Z - ล้อ 18 นิ้ว แต่งทรงสปอร์ตรอบคัน   ภายในมาโทนดำเลยจ้า ตัวนี้เครื่อง 2.4 เลือกใส่เบาะมิกกี้เมาท์จากโรงงานได้นะเธอ 

ในเรื่องของการขับขี่  เหมือนกันทั้ง 2 ตัวเลย เพราะต่างกันแค่ไฟนี่  

3 รถสปอร์ตที่ควรจับตามองในปี 2014

                ปีใหม่ 2014 โลกวิวัฒนาการไปอย่างรวดเร็ว เกิดนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นเกี่ยวกับรถยนต์ ที่ได้ปรับเสริมเติมแต่งให้ใช้งานง่าย ประสิทธิภาพสูง และทันสมัยมากขึ้น โดยเฉพาะ รถสปอร์ต นั้นมีการปรับรุ่นเพิ่ม option กันขึ้นมาก เพื่อให้ดูทันสมัยเหมาะสมกับที่เป็นปี 2014 วันนี้เราจะพาทุกท่านไปดูรถสปอร์ตที่น่าจับตามองของปีนี้กันครับ

1.       Lucra L148 เป็น รถสปอร์ต ของค่ายลูครา ที่พึ่งเปิดตัวมาในปีใหม่นี้  รถดังกล่าวออกแบบดีไซน์ใหม่ให้โฉบเฉียวมีฝากระโปรงหน้าที่ยาว ตัวรถเป็นแบบหลังคาเปิด มีท่อไอเสียอยู่ด้านข้าง มีไฟที่โดดเด่นอยู่ด้านหลัง เพิ่มความเป็นสปอร์ตโดยการติดสเกิร์ตคาร์บอนไฟเบอร์ไว้รอบคัน ใช้เครื่องยนต์ V8 ขนาด 4,700 ซีซี 500 แรงม้า เป็นตัวขับเคลื่อน ราคาอยู่ที่ราวๆ 250,000 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 8 ล้านบาท

2.       Jaguar F-Type Coupe เป็นรถสปอร์ตของค่าย จากัวร์ (Jaguar) จากประเทศอังกฤษ ซึ่งถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นที่แล้วคือ Jaguar F-Type มีการปรับเพิ่มส่วนของรังคาให้มีความแข็งแรงเพิ่มมากขึ้น ไฟหน้าเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็กติดตั้งด้วยโคมซีนอน กระจังหน้าวงรีมีขนาดใหญ่ ทำให้ดูบึกบึนและแข็งแรงมากขึ้น ใช้เครื่องยนต์ V6 ขนาด 3,000 ซีซี 340 แรงม้าเป็นตัวขับเคลื่อน โดยจับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด มีความเร็วสูงสุดได้ถึง 243 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

3.       Corvette Stingray เป็น รถสปอร์ต ของค่ายเชฟโรเล็ต โดยได้เน้นที่ความสวยงามเป็นหลัก มีหน้าจอแสดงผลมาตรวัดแบบดิจิตอล มีโครงสร้างที่แข็งแรงทนทาน แถมยังน้ำหนักเบาอีกด้วย ใช้เครื่องยนต์
V 8 ขนาด 6.2 ลิตร ไดเร็คท์ อินเจ็คท์ชั่น 450 แรงม้า เป็นตัวขับเคลื่อน ราคาอยู่ที่ราวๆ 34 ล้านบาท